พาอากงอาม่าระลึกความหลังที่เกาะสีชัง และพักสบาย Balcony
พาอากงอาม่าระลึกความหลังที่เกาะสีชัง และพักสบาย Balcony
03/02/17 4:38 am
Share This :
เมื่ออากงบ่นอยากไปเกาะสีชัง (ตามรายการอะไรซักอย่างใน TV) กับลิงๆอยากไป Harbor Land เลยต้องจัดเต็มยกขโยงกันไป 3 วัน 2 คืน กับ Balcony, เกาะสีชัง, Harbor Land…
ครั้งนี้จากพาลูกเที่ยวดะ ต้องกลายเป็นพาพ่อแม่ลูกๆเที่ยวดะ….
จากที่อากงอยากไปเกาะสีชัง และ หลานๆอยากไป Harbor Land เลยจัดซะ รอบนี้เราไปพักที่ Balcony Seaside ศรีราชา ครับพอดีมีเพื่อนแนะนำ อีกอย่างจาก Balcony ไปท่าเรือไปเกาะสีชังก็ไม่ไกลกันมาก เลยขอไปลองหน่อย..
เราใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพไปศรีราชาไม่นานประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงที่หมาย Balcony Seaside ที่พักที่เราจะนอนกัน 2 คืน การไปพักที่ Balcony เป็นการไปพักครั้งแรกของเรา ค่อนข้างประทับใจครับเลยอยากจะขอเล่าหน่อย ที่ Balcony จริงๆก็เป็นที่พักแนว Service Apartment นะครับไม่เชิงเป็นโรงแรมซะทีเดียว

บริเวณ Lobby มีมุมกาแฟและ snack เสริฟ์ตลอดวัน

ห้องอาหารโต๊ะใหญ่ดี เหมาะกับครอบครัว
เริ่มจากตึกแรกที่สร้างมาก่อน จะอยู่ติดริมทะเล บรรยากาศจะอบอุ่นดีเล็กๆ มีกลิ่นไอของญี่ปุ่น ตรงที่มีชั้นหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นให้ยืมอ่านกันด้วย ได้พาเด็กๆ ไปเดินเล่นริมทะเล น้ำใสมาก แต่ลงเล่นไม่ได้เพราะเป็นหาดที่แต่มีเปลือกหอยและโคดหิน เด็กๆ ก็ยังลงไปวิ่งเล่นเกมหอยอยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับมาที่ตึกใหม่

มุมพักชิลล์ที่ตึกแรก

มีหาดเล็กๆ ให้เล่นทรายได้ด้วย

เมื่อลิงเจอทรายก็เลิกยากนิดหน่อย

ดูพระอาทิตย์ระหว่างรอลิงเล่นเกม
กลับมาตึกใหม่กัน ยังไม่เลิกครับ มาเล่นกันต่อที่ playground เล่นกันนานมากไม่ยอมเลิก จนต้องขอให้ไปเล่นน้ำสระแทนเถิดเดี๋ยวจะค่ำเกินไป สำหรับห้องน้ำทุกจุดใน Balcony เป็นแบบอัตโนมัติสไตล์ญี่ปุ่น ที่นั่งอุ่นมีฉีดน้ำเป่าลม ห้องอาบน้ำข้างสระน้ำใหญ่มาก เหมาะกับเอาสองลิงเข้าไปอาบพร้อมกันสบายๆ
ส่วนในห้องพักด้วยความที่เป็น Service Apartment ก็เลยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ทั้งตู้เย็น ไมโครเวฟ เตา เครื่องครัวทั้งหลาย กระติกน้ำร้อน ไดร์เป่าผม ตู้เซฟ และ เครื่องซักผ้า สำหรับห้อง 2 bedroom มีห้องน้ำ 2 ห้องด้วย ภายในห้องการจัดวางสิ่งอำนวยความสะดวกทำได้ดีเลยคือดูๆแล้วก็ออกแนวญี่ปุ่น คือจัดวางได้ลงตัวดีครับ

ห้องนอนที่ 1 โดยลิงบุกรุก

ห้องนอนที่ 2

พื้นที่ในห้องไม่กว้าง แต่จัดสรรลงตัว
…อ้อเกือบลืมอีกอย่างที่สำคัญสำหรับเราๆท่านๆยุคนี้ ปลั๊กไฟครับคือแบบว่าท่านให้มาซะจุใจ ห้องแบบ 1 bedroom ที่ อากง อาม่า นอนพักมี 7 จุด ส่วนห้อง 2 bedroom 10 กว่าจุดครับชาร์จกันให้เพลินเลย คือแบบเดินไปไหนก็เจอเลยลองเดินนับดูเยอะมากไม่ต้องหงุดหงิดเวลาจะชาร์จแล้วปลั๊กไม่พอ เรียกได้ว่ามาเหอะจะ notebook โทรศัพท์กี่เครื่อง กล้อง จัดมาพ่อเตรียมไว้ให้ไม่ขาด Happy สุดๆ…
ที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กๆ….ห้องน้ำครับ…มีอ่างอาบน้ำ และ ชักโครกระบบอัตโนมัติ อันนี้ชบาเล่นซะเพลินเลยนั่งไม่ยอมลุก นั่งไปขำไป ^_^’

ลิงแช่น้ำ
ในวันที่ไปค้างคืนแรกด้วยความที่ขี้เกียจออกไปข้างนอกเลยสั่งอาหารมาทานในห้อง สำหรับเด็กๆก็คงต้องพวกอาหารญี่ปุ่นเป็น set เหมือนร้านญี่ปุ่นชื่อดังตามห้าง รสชาติดีเลย จานใหญ่มากๆ ถือว่าราคาไม่แพง อันนี้ผ่านครับลิงๆซัดซะเกลี้ยง…..

จานใหญ่มาก

มุมจากห้องนอน
คราวนี้มาดูเรื่องอาหารการกินกันบ้าน Buffet ที่นี่อาหารก็ถือว่าหลากหลายครับ มีทั้งอาหารญี่ปุ่น, อาหารไทย หรือ จะทานแบบ American breakfast ก็มี ส่วนเครื่องดื่มมีครบครับอยากทานน้ำผลไม้ ชา กาแฟ มีหมด ขนาดนมก็มีทั้งนมสดธรรมดา กับนมสดพร่องมันเนย ที่น่ารักคือมีจานชาม แก้วน้ำ ช้อนซ้อม สีสันสดใสสำหรับเด็กเล็กด้วยอันนี้ไม่ค่อยเจอที่อื่น มีอาหารไซด์เล็ก อย่าง แซนวิช และแฮมเบอร์เกอร์หั่นขึ้น มีข้าวต้มและกับข้าวสำหรับอากง อาม่าได้เลือกทานแบบสบายท้อง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเค้าใส่ใจดี ส่วนรสชาติอาหารใช้ได้ครับ โดยเฉพาะพวกอาหารญี่ปุ่นเค้าทำอร่อยทีเดียว
กินเสร็จแวะไปเล่นที่ Kid’s club มีของเล่นหลากหลาย เหมาะกับเด็กๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เลือกเล่นกันอย่างกับอยู่บ้านตัวเอง
เท่าที่สังเกตลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่เป็นญี่ปุ่นพนักงานก็เลยน่าจะถูกฝึกมาให้บริการแบบญี่ปุ่นคือใส่ใจลูกค้า คอยดูแลเทคแคร์ตลอด อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมีครบครับ มีบาร์กาแฟและ snack เปิด 24 ชั่วโมงทานฟรีตลอด (อันนี้ถูกใจยิ่งนัก), Fitness, Golf Simulator (ไม่มีไม้ให้ ต้องนำไม้ไปเองนะครับ), สระว่ายน้ำ, บ่อออนเซ็น ห้องผู้หญิงมีสองบ่อแบบร้อน 40 องศา กับแบบเย็น 18 องศา ส่วนห้องผู้ชายมี 5 บ่อเลยครับ 3 บ่อ indoor และ 2 บ่อเล็ก อยู่ outdoor แบบแช่ไปชมวิวไปได้เลย (อันนี้ต้องลงไปแบบเปิดเผย ตามสไตล์ญี่ปุ่นนะครับ แต่มีแยกห้องชายหญิงครับ ไม่ต้องกังวล ^_^’)
จากที่ได้ไปพักมา 2 คืนต้องบอกว่าประทับใจครับ การบริการดีมาก พนักงานยิ้มแย้ม ค่อยสังเกต และ ช่วยเหลือตลอด เริ่มตั้งแต่ check in พนักงานก็จะอธิบายรายละเอียดบริการภายในโรงแรมอย่างละเอียดมาก ขนาดให้รอพนักงานขนกระเป๋าขึ้นห้องแค่แป๊บเดียวขอโทษแล้วขอโทษอีก หรือ ผมแค่เดินถือสายชาร์จแบตมือถืออยู่พนักงานก็มาถามว่าหาปลั๊กหรือเปล่า แล้วบอกจุดที่มีปลั๊กให้นอกจากนี้ Balcony เองตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลมากๆ ลองคิดว่า เกิดลูกป่วยขึ้นมา ขับรถไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว
ขอจบเรื่อง Balcony แค่นี้ก็แล้วกันครับเดี๋ยวจะยาวไป รวมๆแล้วประทับใจครับคงต้องหาโอกาสไปอีก….
เช้าวันที่ 2 หลังจากทานข้าวเรียบร้อยจุดหมายของวันนี้คือเกาะสีชัง พาอากงไประลึกความหลังที่เกาะสีชัง จาก Balcony ที่เราไปพักกันก็ขับรถแป๊บเดียวครับไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงท่าเรือ เรือโดยสารที่ไปเป็นเรือติดแอร์ 2 ชั้น ค่าโดยสารคนละ 50 บาท (เด็กก็เสียนะครับ) ที่นั่งในเรื่องรวมๆแล้วใช้ได้ครับติดนิดเดียวตรงระหว่างแถวแคบไปนิด เราใช้เวลาอยู่บนเรือเกือบชั่วโมงเหมือนกันชบาแอบงอแงบ่นเล็กน้อยหญิงแม่ก็ต้องหาวิธีหลอกล่อกันไป ทั้งเล่านิทาน ทั้งเล่นเป่ายิ้งฉุบ พอถึงก็เฮดีใจกันใหญ่
เกาะสีชังดูแล้วก็เจริญครับเหมือนเป็นเมืองเล็กๆ ผู้คนอัธยาศัยดี ที่แรกเลยที่อากง อาม่าอยากไปก็ไปไหวพระก่อนเลยครับ เนื่องจากเราไปกันหลายคน ผู้ใหญ่6 เด็ก4 เราก็เลยเลือกเหมารถสองแถวให้เค้าพาเราเที่ยวทั้งวันด้วยราคา 500 บาท ถ้ามาประมาณ 4-6 คน แนะนำให้นั่งรถสกายแล็ป เหมือนรถตุ๊กตุ๊กแต่ใหญ่กว่า เท่มากครับ (ราคา 300 บาท)

สกายแลป
ที่แรกเลยเราก็ไปสักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือกันมาก การไปสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ต้องขึ้นไปบนเขามีบันไดขึ้นก็ไม่ถึงกับสูงมากแต่ก็เล่นเอาหอบครับ ส่วนอากงอาม่าก็นั่งรถลากขึ้นไป ซึ่งเค้ามีบริการให้นักท่องเที่ยวที่จะไปสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ (ไม่เสียเงินครับ พอขึ้นไปถึงจะมีกล่องรับบริจาคค่าไฟ ก็แล้วแต่ทำบุญ) ลักษณะของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่จะเป็นถ้ำไม่ใหญ่มาก บนศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่จะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นท่าเทียบเรือได้ (แต่แอบมีเรือเยอะไปนิดนึง)

ทางซ้ายมือ คือทางเดินขึ้นเขา

อากงอาม่าจับมือกันเดินลงจากเขา

ของฝากเกาะสีชัง
จากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เราก็ไปแวะที่ช่องเขาขาด คุณลุงคนขับบอกว่า เป็นจุดดูพระอาทิตย์ตก แต่เรามากันใกล้เที่ยง ร้อนที่เดียว เดินชมสะพานแล้วก็ไปหาอะไรกินกัน เราไปทานอาหารกลางวันที่ ”ร้านป้าหน่อยริมทาง” ใช้ได้เลยครับอาหารอร่อยดีราคาก็กลางๆ ครับไม่ถึงกับแพงมาก
พออิ่มได้ที่คุณลุงคนขับรถก็พาเราไปเที่ยวต่อที่ “พระตำหนักเกาะสีชัง” หรือ “พระจุฑาธุชราชฐาน” ที่อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นที่ที่อากงอยากมามาก ที่นี่สวยงามร่มรื่นมากผมว่าอยู่ได้ทั้งวัน อากงอาม่าเดินไปเคารพพระรูปร. 5 เป็นที่แรก ยิ่งถ้าไปตอนเย็นๆตรงแถวสะพานอัษฎางค์คงจะสวยมาก เสียดายเราไปกันตอนบ่ายถ้าอยู่กลางแจ้งก็ร้อนนิดหน่อย แต่ก็มีที่นั่งใต้ร่มไม้กระจายอยู่ทั่วสามารถนั่งพักผ่อนลมทะเลพัดชวนหลับได้เลยครับ

ต้นไม้คู่นี้สวยเหมือนรูปหัวใจ
ภายในบริเวณพระจุฑาธุชราชฐาน จะมีตำหนักต่างๆกระจายอยู่ แต่ละตำหนักก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชอบมากครับอยู่แล้วไม่อยากกลับ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่กันประมาณ 2 ชั่วโมงเด็กๆ ก็อยากไปเล่นน้ำแล้วเลยต้องยอมออกจากพระตำหนักพาเด็กๆไปเล่นน้ำกันที่ชายหาดหลังเกาะ
เราไปที่หาดถ้ำพัง หาดไม่ถึงกับใหญ่มากครับ มีที่พักติดหาดเลย มีเก้าอี้ชายหาดให้นั่ง(ฟรี) สามารถสั่งอาหารทานได้ น้ำใสน่าเล่นมาก ตอนแรกที่ไปถึงเกาะสีชังยังแอบคิดว่าจะมีหาดให้เล่นหรือเปล่า เพราะด้านหน้าเกาะดูเป็นท่าเทียบเรือมีเรือวิ่งเข้าวิ่งออกตลอดเวลา เด็กๆเล่นน้ำกันอยู่พักใหญ่ก็สนุกกันพอสมควรก็ต้องกลับเพราะกลัวไม่ทันเที่ยวเรือ สุดท้ายกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จไม่ทันรอบ 17:00 ครับ ถ้าจะรอเรือรอบต่อไปคือ 18:00 ก็เลยตัดสินใจเหมาะ speed boat กลับในราคา 2,500 เด็กๆเฮกันใหญ่โดยเฉพาะใบบอนชอบมากกับ speed boat สรุปจบทริปของวันนี้ Happy กันไปทั้ง อากง อาม่า หลานๆ ….